Skip to content

Latest commit

 

History

History
89 lines (76 loc) · 7.17 KB

README.md

File metadata and controls

89 lines (76 loc) · 7.17 KB

อินพุตควบคุม (Controlled Input) และ อินพุตอิสระ (Uncontrolled Input)

อินพุตควบคุม (Controlled Input) และ อินพุตอิสระ (Uncontrolled Input) จะถูกนำไปใช้ในการจัดการข้อมูล หรือ action ต่างๆของ form

อินพุตควบคุม (Controlled Input) นั้นค่าของอินพุตจะถูกกำหนดด้วยข้อมูลจากภายนอก ที่เรามักจะใช้ค่านี้จากแหล่งข้อมูลเดีนว (Single source of truth) ดังตัวอย่างด้านล่าง component App มี element <input> อยู่หนึ่งตัว ซึ่งเป็น Controlled Input

class App extends React.Component {
  constructor(props) {
    super(props);
    this.state = { value: 'hello' };
  }
  render() {
    return <input type='text' value={ this.state.value } />;
  }
};

ผลลัพธ์ของโค้ดด้านบนจะได้ input ที่เราสามารถกำหนดค่าที่ input นั้นแสดงอยู่ได้ แต่จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงค่าของมันได้เลย เพราะว่าเราได้กำหนดค่าให้อินพุตนั้นโดยนำมาจากค่า state ของ component App แต่ถ้าจะให้ input นั้นใช้งานได้อย่างที่ปกติมันควรจะเป็น (คือสามารถกำหนดค่า และ เปลี่ยนแปลงค่าของมันได้) จำเป็นจะต้องเพิ่ม handler ที่เรียกว่า onChange เพื่อทำการจัดการและเปลี่ยนค่า state ของ component App (ที่ถูกนำไปกำหนดเป็นค่าของอินพุต) ซึ่งทำให้เกิดการ render ใหม่แล้วจึงจะแสดงผลของค่าที่ได้อัพเดทไปแล้วที่ input

class App extends React.Component {
  constructor(props) {
    super(props);
    this.state = { value: 'hello' };
    this._change = this._handleInputChange.bind(this);
  }
  render() {
    return (
      <input
        type='text'
        value={ this.state.value }
        onChange={ this._change } />
    );
  }
  _handleInputChange(e) {
    this.setState({ value: e.target.value });
  }
};

ในขณะที่ อินพุตอิสระ (Uncontrolled Input) เป็น input ที่ปล่อยให้ browser เป็นตัวจัดการค่าต่างๆที่เกิดขึ้นมาจากการกระทำของ user แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ยังสามารถกำหนดค่าเริ่มต้นให้แก่ input ได้โดยการเพิ่ม attribute (prop) ที่เรียกว่า defaultValue แล้วหลังจากนั้น browser จะรับหน้าที่เก็บค่าของ input และแสดงผลเอง

class App extends React.Component {
  constructor(props) {
    super(props);
    this.state = { value: 'hello' };
  }
  render() {
    return <input type='text' defaultValue={ this.state.value } />
  }
};

จากตัวอย่างข้างบนนั้น element <input> ค่อนข้างจะไร้ประโยชน์ เพราะถ้า user อัพเดทค่าของ input ตัว component App นั้นจะไม่รับรู้อะไรเลย จะต้องใช้ตัวอ้างอิง Refs เพื่อที่จะดึงข้อมูลจาก input โดยตรง

class App extends React.Component {
  constructor(props) {
    super(props);
    this.state = { value: 'hello' };
    this._change = this._handleInputChange.bind(this);
  }
  render() {
    return (
      <input
        type='text'
        defaultValue={ this.state.value }
        onChange={ this._change }
        ref={ input => this.input = input }/>
    );
  }
  _handleInputChange() {
    this.setState({ value: this.input.value });
  }
};

การจะใช้ Refs นั้นต้องกำหนด prop ที่ชื่อว่า ref และค่าที่กำหนดให้นั้นจะต้องเป็นตัวอักษรสตริง (Legacy String Refs) หรือ callback function* จากตัวอย่าง source code ด้านบนใช้ callback เพื่อที่จะเก็บ DOM element ไว้ที่ตัวแปร local ที่มีชื่อว่า input และเมื่อ handler onChange จับได้ว่า input มีการอัพเดท function ที่มาทำหน้าที่เป็น handler (ในที่นี้คือ _handleInputChange()) ก็จะใช้ Refs เพื่ออ้างถึงข้อมูลที่ DOM input นั้นถืออยู่ และนำไปใช้อัพเดทค่า state ของ component App

*ปัจจุบัน React สนับสนุนให้ใช้ callback function มากกว่า Legacy String Refs เพราะแบบเก่ายังมี issue และอาจจะถูกนำออกไปในเวอร์ชั่นข้างหน้า การใช้ Refs บ่อยๆนั้นไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนัก ถ้าเป็นไปได้ควรใช้ หรือ migrate มาใช้ อินพุตควบคุม แทน

ข้อคิด

คนส่วนใหญ่มักจะมองข้าม ข้อแตกต่างระหว่าง อินพุตควบคุม และ อินพุตอิสระ แต่โดยพื้นฐานและแนวคิดของ React นั้นจะเป็นการควบคุม data flow เพราะฉะนั้นแนวคิดนี้ค่อนข้างจะสนับสนุนและสอดคล้องกับวิธีและกลไกของ อินพุตควบคุม ส่วนตัวผมนั้นคิดว่าการใช้ อินพุตอิสระ ค่อนข้างจะเป็น anti-pattern ถ้าเป็นไปได้ผมมักจะพยายามหลีกเลี่ยงที่จะใช้มัน